แนวข้อสอบ
พระราชบัญญัติ ล้มละลาย พ.ศ. 2483 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 2-7
1. พระราชบัญญัติ ล้มละลาย มีทั้งหมดจำนวนกี่ฉบับ
ก. 5 ฉบับ ค. 7 ฉบับ
ข. 6 ฉบับ ง. 8 ฉบับ
ตอบ ค. 7 ฉบับ ได้แก่
1.พระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช ๒๔๘๓
2.พระราชบัญญัติล้มละลาย (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๑๑
3.พระราชบัญญัติล้มละลาย (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๒๖
4. พระราชบัญญัติล้มละลาย (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๔๑
5. พระราชบัญญัติล้มละลาย (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๔๒
6. พระราชบัญญัติล้มละลาย (ฉบับที่ ๖) พ.ศ. ๒๕๔๓
7. พระราชบัญญัติล้มละลาย (ฉบับที่ ๗) พ.ศ. ๒๕๔๗
2. พระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช ๒๔๘๓ ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันใด
ก.1 มกราคม พ.ศ.2483 ค. 2 มกราคม พ.ศ.2483
ข.1 มกราคม พ.ศ.2484 ง. 2 มกราคม พ.ศ.2484
ตอบ ข.1 มกราคม พ.ศ.2484
3. พระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช ๒๔๘๓ มีกี่หมวด กี่มาตรา
ก. 7 หมวด 180 มาตรา ค. 8 หมวด 180 มาตรา
ข. 7 หมวด 181 มาตรา ง. 8 หมวด 181 มาตรา
ตอบ ง. 8 หมวด 181 มาตรา
4. พระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช ๒๔๘๓ ให้ใช้เขตในจังหวัดใด
ก.ธนบุรี ค. นนทบุรี
ข.สมุทรปราการ ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
5. บุคคลล้มละลายทุจริต พระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช ๒๔๘๓ หมายความว่าอย่างไร
ก.บุคคลล้มละลายที่ถูกศาลพิพากษาว่ามีความผิดตามมาตรา 163 ถึงมาตรา 170
ข.บุคคลที่มีความผิดเกี่ยวกับการล้มละลายฐานยักยอกหรือฉ้อโกงตามกฏหมายลักษณะอาญา
ค. การกระทำความผิดอันมีลักษณะเป็นการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนตามกฎหมายว่า
ด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน
ง.ถูกเฉพาะข้อ ก และ ข
ตอบ ง.ถูกเฉพาะข้อ ก และ ข
6. พระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช ๒๔๘๓ มาตรา 8 ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า ลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัว ในกรณีใด
ก. ถ้าลูกหนี้โอนทรัพย์สินหรือสิทธิจัดการทรัพย์สินของตนให้แก่บุคคลอื่น
ข. ถ้าลูกหนี้โอนหรือส่งมอบทรัพย์สินของตนไปโดยการแสดงเจตนาลวงหรือโดยการฉ้อฉล
ค. ถ้าลูกหนี้โอนทรัพย์สินของตนหรือก่อให้เกิดทรัพย์สิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดขึ้นเหนือทรัพย์สินนั้น ซึ่งถ้าลูกหนี้ล้มละลายแล้วจะต้องถือว่าเป็นการให้เปรียบ
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
7. เจ้าหนี้จะฟ้องลูกหนี้ให้ล้มละลายได้ก็ต่อเมื่อกรณีใด
ก. ลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัว
ข. ลูกหนี้เป็นหนี้เจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์คนเดียวเป็นจำนวนไม่น้อยกว่า 1,000 บาท หรือเป็นหนี้เจ้าหนี้หลายคนซึ่งเข้าชื่อกันเป็นโจทก์เป็นจำนวนรวมกันไม่น้อยกว่า 1,000 บาท
ค. หนี้นั้นอาจกำหนดจำนวนได้โดยแน่นอน ไม่ว่าหนี้นั้นจะถึงกำหนดชำระโดยพลันหรือในอนาคตก็ตาม
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง.ถูกทุกข้อ
8. เจ้าหนี้มีประกันจะฟ้องลูกหนี้ให้ล้มละลายได้ก็ต่อเมื่อกรณีใด
ก. มิได้เป็นผู้ต้องห้ามมิให้การบังคับชำระหนี้เอาแก่ทรัพย์สินของลูกหนี้เกินกว่าตัวทรัพย์ที่เป็นหลักประกัน
ข. กล่าวในฟ้องว่าถ้าลูกหนี้ล้มละลายแล้วจะยอมสละหลักประกันเพื่อประโยชน์แก่เจ้าหนี้ทั้งหลาย
ค. ตีราคาหลักประกันในฟ้องซึ่งเมื่อหักกับจำนวนหนี้ของตนแล้วเงินยังขาดอยู่เป็นจำนวนไม่น้อยกว่า 1,000 บาท
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
9. ในขณะยื่นคำฟ้องคดีล้มละลาย เจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์ต้องวางเงินประกันค่าใช้จ่ายไว้ต่อศาลเป็นจำนวนเงินเท่าใด
ก. 50 บาท ค. 1,000 บาท
ข. 500 บาท ง. 5,000 บาท
ตอบ ก. 50 บาท
10. เมื่อศาลสั่งรับฟ้องคดีล้มละลายไว้แล้วให้กำหนดวันนั่งพิจารณาเป็นการด่วนและให้ออกหมายเรียกและส่งสำเนาคำฟ้องไปยังลูกหนี้ให้ทราบก่อนวันนั่งพิจารณาไม่น้อยกว่ากี่วัน
ก. 3 วัน ค. 15 วัน
ข. 7 วัน ง. 30 วัน
ตอบ ข. 7 วัน
11. เมื่อศาลได้รับฟ้องคดีล้มละลายแล้วถ้าเจ้าหนี้ผู้เป็นโจทย์มีคำขอฝ่ายเดียวโดยทำเป็นคำร้องและโจทก์นำสืบได้ว่าลูกหนี้ได้กระทำการ
ก. ออกไปหรือกำลังออกไปนอกเขตอำนาจศาล หรือได้ออกไปก่อนแล้ว และคงอยู่นอกเขตอำนาจศาล โดยเจตนาที่จะป้องกันหรือประวิงมิให้เจ้าหนี้ ได้รับการชำระหนี้
ข. ปกปิด ซุกซ่อน โอน ขาย จำหน่าย หรือยักย้ายทรัพย์สินดวงตรา สมุดบัญชี หรือเอกสาร ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่เจ้าหนี้ทั้งหลายในการดำเนินคดีล้มละลายให้พ้นอำนาจศาล หรือกำลังจะกระทำการดั่งกล่าวนั้น
ค. กระทำหรือกำลังจะกระทำการฉ้อโกงเจ้าหนี้ หรือกระทำหรือกำลัง จะกระทำความผิดอย่างหนึ่งอย่างใด
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
12. จากข้อ 11 ศาลมีอำนาจอย่างไร
ก. ให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เข้าไปในเคหะสถาน หรือที่ทำการ ของลูกหนี้ระหว่างเวลาพระอาทิตย์ขึ้นจนถึงพระอาทิตย์ตก เพื่อตรวจสอบ ทรัพย์สินดวงตรา สมุดบัญชีหรือเอกสารของลูกหนี้ และให้มีอำนาจสอบสวน ลูกหนี้หรือออกหมายเรียกลูกหนี้มาสอบสวนได้
ข. ให้ลูกหนี้ให้ประกันจนพอใจศาลว่า ลูกหนี้จะไม่หลบหนีไปนอก อำนาจศาลและจะมาศาลทุกคราวที่ศาลสั่ง ถ้าลูกหนี้ไม่สามารถให้ประกัน ศาลมีอำนาจสั่งขังลูกหนี้ได้มีกำหนดไม่เกินครั้งละหนึ่งเดือน แต่เมื่อรวมกัน แล้วต้องไม่เกินหกเดือน
ค. ออกหมายจับลูกหนี้มาขังไว้จนกว่าศาลจะพิพากษาให้ลูกหนี้ ล้มละลาย หรือจนกว่าศาลจะยกฟ้อง หรือจนกว่าลูกหนี้จะให้ประกัน จนพอใจศาล
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
13. เมื่อศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แต่ผู้เดียวมีอำนาจอย่างไร
ก. จัดการจำหน่ายทรัพย์สินของลูกหนี้ หรือกระทำการที่จำเป็นเพื่อให้ กิจการของลูกหนี้ที่ค้างอยู่เสร็จสิ้นไป
ข. เก็บรวบรวมและรับเงินหรือทรัพย์สินซึ่งจะตกได้แก่ลูกหนี้ หรือซึ่ง ลูกหนี้มีสิทธิจะได้รับจากผู้อื่น
ค. ประนีประนอมยอมความ หรือฟ้องร้อง หรือต่อสู้คดีใด ๆ เกี่ยวกับ ทรัพย์สินของลูกหนี้
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
14. เมื่อลูกหนี้ได้ทราบคำสั่งลูกหนี้ ต้องไปสาบานตัวต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ และยื่นคำชี้แจงตามแบบพิมพ์ว่า ได้มีหุ้นส่วนกับผู้ใดหรือไม่ ภายในเวลาเท่าใด
ก. 12 ชั่วโมง ค. 24 ชั่วโมง
ข. 15 ชั่วโมง ง. 48 ชั่วโมง
ตอบ ค. 24 ชั่วโมง
15. ลูกหนี้ต้องไป สาบานตัวต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์และยื่นคำชี้แจงเกี่ยวกับกิจการและทรัพย์ สินของลูกหนี้ตามแบบพิมพ์ แสดงเหตุผลที่ทำให้มีหนี้สินล้นพ้นตัว สินทรัพย์และ หนี้สิน ภายในเวลากี่วัน
ก. 3 วัน ค. 14 วัน
ข. 7 วัน ง. 20 วัน
ตอบ ข. 7 วัน
16. ใครทำหน้าที่เรียกประชุมเจ้าหนี้
ก. ศาล ค. เจ้าหนี้
ข. พนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ง. อัยการ
ตอบ ข. พนักงานพิทักษ์ทรัพย์
17. เมื่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เห็นว่ามติของที่ประชุมเจ้าหนี้ ขัดต่อกฎหมาย หรือประโยชน์อันร่วมกันของเจ้าหนี้ทั้งหลาย เจ้าพนักงาน พิทักษ์ทรัพย์อาจยื่นคำขอโดยทำเป็นคำร้องต่อศาล และศาลอาจมีคำสั่งห้าม มิให้ปฏิบัติการตามมตินั้นได้ แต่ต้องยื่นต่อศาลภายในกี่วัน นับแต่วันที่ ที่ประชุมเจ้าหนี้ลงมติ
ก. 7 วัน ค. 3 วัน
ข. 15 วัน ง. 30 วัน
ตอบ ก. 7 วัน
18. กรรมการเจ้าหนี้ขาดจากตำแหน่งด้วยเหตุใด
ก. ลาออกโดยมีหนังสือแจ้งไปยังเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
ข. ถูกศาลพิพากษาให้ล้มละลาย หรือถูกศาลสั่งให้เป็นผู้ไร้ความ สามารถหรือเสมือนไร้ความสามารถ
ค. ที่ประชุมเจ้าหนี้ให้ออกจากตำแหน่ง โดยได้แจ้งการที่ประชุมให้ ออกนี้ให้เจ้าหนี้ทั้งหลายทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่าเจ็ดวัน
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง.ถูกทุกข้อ
19. เมื่อได้มีการประชุมเจ้าหนี้ครั้งแรกเสร็จแล้ว ให้ศาล ไต่สวนลูกหนี้โดยวิธีการใด
ก. โดยลับ ค. โดยเปิดเผย
ข. โดยตรง ง. วิธีใดก็ได้
ตอบ ค. โดยเปิดเผย
20. เมื่อลูกหนี้ประสงค์จะทำความตกลงในเรื่องหนี้สินโดยวิธีขอ ชำระหนี้แต่เพียงบางส่วนหรือโดยวิธีอื่น ให้ทำคำขอประนอมหนี้เป็นหนังสือยื่น ต่อใคร
ก. ศาล ค. ทนาย
ข. พนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ง. อัยการ
ตอบ ข. พนักงานพิทักษ์ทรัพย์
21. เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ต้องยื่นรายงานเกี่ยวกับการประนอม หนี้ กิจการทรัพย์สินและความประพฤติของลูกหนี้ต่อศาล ไม่น้อยกว่ากี่วัน ก่อนวันที่ศาลนั่งพิจารณา
ก. 7 วัน ค. 4 วัน
ข. 5 วัน ง. 3 วัน
ตอบ ง. 3 วัน
22. ข้อใดกล่าวถูกต้อง
ก. ลูกหนี้ซึ่งถูกพิทักษ์ทรัพย์แล้วต้องไปในการประชุมเจ้าหนี้ทุกครั้ง
ข. เมื่อศาลพิพากษาให้ล้มละลายแล้ว ลูกหนี้จะต้องเป็นธุระ ช่วยโดยเต็มความสามารถในการจำหน่ายทรัพย์สินและในการแบ่งทรัพย์สินใน ระหว่างเจ้าหนี้ทั้งหลาย
ค. เมื่อศาลได้พิพากษาให้ล้มละลายแล้ว บุคคลล้มละลายอาจได้รับการปลดจากล้มละลายเมื่อศาลได้มีคำสั่งปลดจากล้มละลายตาม มาตรา 71 หรือเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาตาม มาตรา 81/1
ง. กล่าวถูกทุกข้อ
ตอบ ง. กล่าวถูกทุกข้อ
23. คำสั่งปลดจากล้มละลายทำให้บุคคลล้มละลายหลุดพ้นจากหนี้ ทั้งปวงอันพึงขอรับชำระได้ เว้นแต่ข้อใด
ก. หนี้เกี่ยวกับภาษีอากร
ข. จังกอบของรัฐบาลหรือเทศบาล
ค. หนี้ซึ่งได้เกิดขึ้นโดยความทุจริตฉ้อโกงของบุคคลล้มละลาย หรือหนี้ ซึ่งเจ้าหนี้ไม่ได้เรียกร้องเนื่องจากความทุจริตฉ้อโกงซึ่งบุคคลล้มละลายมีส่วน เกี่ยวข้องสมรู้
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง.ถูกทุกข้อ
24. เจ้าหนี้ต้องยื่นคำฟ้องต่อศาลภายในกำหนดกี่ปี นับแต่วันที่ลูกหนี้ตาย
ก. 4 ปี ค. 2 ปี
ข. 3 ปี ง. 1 ปี
ตอบ ง. 1 ปี
25. "เจ้าหนี้" พระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช ๒๔๘๓ หมายความว่าอย่างไร
ก. เจ้าหนี้มีประกัน ค. ถูกทั้ง ก และ ข
ข. เจ้าหนี้ไม่มีประกัน ง. ไม่มีข้อถูก
ตอบ ค. ถูกทั้ง ก และ ข
26. บุคคลซึ่งมีสิทธิยื่นคำร้องขอต่อศาลให้ฟื้นฟูกิจการคือบุคคลใด
ก. เจ้าหนี้ซึ่งอาจเป็นคนเดียวหรือหลายคนรวมกันและมีจำนวนหนี้แน่นอน ไม่น้อยกว่าสิบล้านบาท
ข. ลูกหนี้ซึ่งมีลักษณะตาม มาตรา 90/3
ค. ธนาคารแห่งประเทศไทย ในกรณีที่ลูกหนี้ตาม มาตรา 90/3 เป็น ธนาคารพาณิชย์ บริษัทเงินทุน บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ หรือบริษัทเครดิต ฟองซิเอร์
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
27. ข้อใดกล่าวผิด ในยื่นคำร้องขอให้มีการฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ไม่ได้
ก. ศาลได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้เด็ดขาด
ข. ศาลได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้ชั่วคราว
ค. ศาลหรือนายทะเบียนได้มีคำสั่งให้เลิกหรือเพิกถอนทะเบียนนิติบุคคลที่ เป็นลูกหนี้
ง. ไม่มีข้อใดกล่าวผิด
ตอบ ข. ศาลได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้ชั่วคราว
28. ในการร้องขอฟื้นฟูกิจการ ผู้ร้องขอต้องชำระค่าขึ้นศาลจำนวนเท่าใด
ก. 500 บาท ค. 10,000 บาท
ข. 5,000 บาท ง. 1,000 บาท
ตอบ ง. 1,000 บาท
29. ในการร้องขอฟื้นฟูกิจการ ต้องวางเงินประกันค่าใช้จ่ายที่ผู้ร้องขอต้องรับผิดชอบในการขอฟื้นฟู กิจการไว้ต่อศาลเป็นจำนวนเท่าใด
ก. 500 บาท ค. 10,000 บาท
ข. 5,000 บาท ง. 50,000 บาท
ตอบ ง. 50,000 บาท
30. การดำเนินการตามข้อใดถือเป็นการให้ความคุ้มครองแก่เจ้าหนี้มีประกันอย่างเพียงพอแล้ว
ก. มีการชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้มีประกันในจำนวนเท่ากับมูลค่าที่ลดลงไป ของทรัพย์สิน
ข. มีการให้หลักประกันแก่เจ้าหนี้มีประกันเพื่อชดเชยหลักประกันเดิมใน จำนวนเท่ากับมูลค่าที่ลดลงไปของทรัพย์สิน
ค. มีการดำเนินการอื่นใดที่เจ้าหนี้มีประกันนั้นยินยอม หรือที่ศาลเห็นว่า จะทำให้เจ้าหนี้มีประกันสามารถได้รับชำระหนี้ของตนตามมูลค่าของทรัพย์สิน
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
31. เจ้าหนี้ ลูกหนี้ หรือผู้ทำแผนอาจขอตรวจและโต้แย้งคำขอ รับชำระหนี้ในการฟื้นฟูกิจการต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้ ภายในกำหนดกี่วัน นับแต่วันที่พ้นกำหนดเวลายื่นคำขอรับชำระหนี้
ก. 7 วัน ค. 30 วัน
ข. 14 วัน ง. 45 วัน
ตอบ ข.14 วัน
32. คำขอรับชำระหนี้ในการฟื้นฟูกิจการของเจ้าหนี้รายใด ถ้ามีผู้โต้แย้งให้ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สอบสวนให้มีคำสั่งอย่างหนึ่งอย่างใดบ้าง
ก. ให้ยกคำขอรับชำระหนี้
ข. อนุญาตให้ได้รับชำระหนี้เต็มจำนวน
ค. อนุญาตให้ได้รับชำระหนี้บางส่วน
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง.ถูกทุกข้อ
33. ข้อใด ไม่ใช่ รายการเกี่ยวกับกิจการและทรัพย์สินของลูกหนี้จะต้องแสดง ณ วันที่ศาลมีคำสั่งรับคำร้องขอไว้พิจารณา
ก. กิจการของลูกหนี้
ข. สินทรัพย์ หนี้สิน
ค. ชื่อ อาชีพและที่อยู่โดยละเอียดของเจ้าหนี้ทั้งหลาย
ง. ชื่อ อาชีพและที่อยู่โดยละเอียดของญาติผู้เป็นลูกหนี้
ตอบ ง. ชื่อ อาชีพและที่อยู่โดยละเอียดของญาติผู้เป็นลูกหนี้
34. ข้อใด ไม่ใช่ มีรายการในแผนฟื้นฟูกิจการ
ก. เหตุผลที่ทำให้มีการฟื้นฟูกิจการ
ข. รายละเอียดแห่งสินทรัพย์ หนี้สินและภาระผูกพันต่าง ๆ ของลูกหนี้ ในขณะที่ศาลสั่งอนุญาตให้ฟื้นฟูกิจการ
ค. หลักการและวิธีการฟื้นฟูกิจการ
ง. เป็นรายการในแผนฟื้นฟูกิจการทุกข้อ
ตอบ ง.เป็นรายการในแผนฟื้นฟูกิจการทุกข้อ
35. ศาลมีคำสั่งเห็นชอบด้วยแผนเมื่อศาลพิจารณาแล้ว ซึ่งเห็นว่าอย่างไร
ก. แผนมีรายการครบถ้วน
ข. ข้อเสนอในการชำระหนี้ตาม แผนนั้นจะต้องเป็นไปตามลำดับที่กฎหมายบัญญัติไว้ว่าด้วยการแบ่งทรัพย์ สินในคดีล้มละลายเว้นแต่เจ้าหนี้นั้นจะให้ความยินยอม
ค. เมื่อการดำเนินการตามแผนสำเร็จจะทำให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้ไม่ น้อยกว่ากรณีที่ศาลมีคำพิพากษาให้ลูกหนี้ล้มละลาย
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
36. การแก้ไขแผนโดยขอขยายกำหนดระยะเวลาดำเนินการตามแผน ให้ ทำได้กี่ครั้ง
ก. ไม่เกิน 2 ครั้ง ครั้งละไม่เกิน 1 ปี
ข. ไม่เกิน 1 ครั้ง ครั้งละไม่เกิน 1 ปี
ค. ไม่เกิน 2 ครั้ง ครั้งละไม่เกิน 2 ปี
ง. ไม่เกิน 2 ครั้ง ครั้งละไม่เกิน 3 ปี
ตอบ ก. ไม่เกิน 2 ครั้ง ครั้งละไม่เกิน 1 ปี
37. เมื่อศาลมีคำสั่งยกเลิกการฟื้นฟูกิจการ แต่ผู้บริหาร ของลูกหนี้ยังไม่ได้เข้าไปจัดการกิจการและทรัพย์สินของลูกหนี้ บุคคลใดมีอำนาจจัดการเพื่อรักษาประโยชน์ของลูกหนี้
ก. ผู้บริหารแผน ค. ผู้บริหารแผนชั่วคราว
ข. เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ง.ถูกทุกข้อ
ตอบ ง.ถูกทุกข้อ
38. ผู้ใดให้ถ้อยคำหรือส่งสมุดบัญชี เอกสารหรือวัตถุพยาน อันเป็นเท็จในสาระสำคัญเกี่ยวกับกิจการและทรัพย์สินของลูกหนี้หรือการ ฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ผู้ทำแผน ผู้บริหารแผน หรือผู้บริหารแผนชั่วคราวต้องระวางโทษอย่างไร
ก. ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือจำคุก ไม่เกิน 1 ปี หรือทั้งปรับทั้งจำ
ข. ปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือจำคุก ไม่เกิน 1 ปี หรือทั้งปรับทั้งจำ
ค. ปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือจำคุก ไม่เกิน 2 ปี หรือทั้งปรับทั้งจำ
ง. ปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือจำคุก ไม่เกิน 3 ปี หรือทั้งปรับทั้งจำ
ตอบ ง. ปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือจำคุก ไม่เกิน 3 ปี หรือทั้งปรับทั้งจำ
39. ผู้บริหารของลูกหนี้ ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือทั้ง ปรับทั้งจำ ในกรณีกระทำการใด
ก. ไม่ชี้แจงข้อความอันเป็นสาระสำคัญเกี่ยวกับกิจการหรือทรัพย์สิน ของลูกหนี้ต่อศาล
ข. มิได้แจ้งให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ทราบภายในกำหนดเวลา สิบห้าวัน เมื่อได้ทราบว่ามีผู้นำหนี้สินอันเป็นเท็จมากล่าวอ้างเพื่อเลือกผู้ทำ แผนหรือขอรับชำระหนี้ตามแผน
ค. มิได้แจ้งให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ทราบภายในกำหนดเวลา สิบห้าวัน เมื่อได้ทราบว่ามีผู้นำนี้สินอันเป็นเท็จมาขอให้ชำระหนี้
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
40. ผู้ใดให้ ขอให้ หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์ อื่นใดแก่เจ้าหนี้หรือผู้อื่น โดยมุ่งหมายที่จะได้รับการสนับสนุนหรือการยอม รับของเจ้าหนี้ในการเลือกผู้ทำแผนหรือผู้บริหารแผน หรือการยอมรับแผน หรือการแก้ไขแผน ต้องระวางโทษอย่างไร
ก. ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือจำคุก ไม่เกิน 1 ปี หรือทั้งปรับทั้งจำ
ข. ปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือจำคุก ไม่เกิน 1 ปี หรือทั้งปรับทั้งจำ
ค. ปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือจำคุก ไม่เกิน 2 ปี หรือทั้งปรับทั้งจำ
ง. ปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือจำคุก ไม่เกิน 3 ปี หรือทั้งปรับทั้งจำ
ตอบ ง. ปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือจำคุก ไม่เกิน 3 ปี หรือทั้งปรับทั้งจำ
41. ผู้ใดเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์ อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่น เพื่อที่จะให้ตนเองหรือเจ้าหนี้อื่นสนับสนุน หรือไม่คัดค้านในการเลือกผู้ทำแผนหรือผู้บริหารแผน หรือการยอมรับ แผนหรือการแก้ไขแผน ต้องระวางโทษอย่างไร
ก. ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือจำคุก ไม่เกิน 1 ปี หรือทั้งปรับทั้งจำ
ข. ปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือจำคุก ไม่เกิน 1 ปี หรือทั้งปรับทั้งจำ
ค. ปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือจำคุก ไม่เกิน 2 ปี หรือทั้งปรับทั้งจำ
ง. ปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือจำคุก ไม่เกิน 3 ปี หรือทั้งปรับทั้งจำ
ตอบ ง. ปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือจำคุก ไม่เกิน 3 ปี หรือทั้งปรับทั้งจำ
42. ผู้ใดเป็นผู้บริหารชั่วคราว ผู้ทำแผน ผู้บริหารแผน ผู้ บริหารแผนชั่วคราว ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต หรือ กระทำการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งหมวด 3/1 โดยมุ่งหมาย ให้เกิดความเสียหายแก่ลูกหนี้หรือเจ้าหนี้ ต้องระวางโทษอย่างไร
ก. ปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือจำคุก ไม่เกิน 2 ปี หรือทั้งปรับทั้งจำ
ข. ปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือจำคุก ไม่เกิน 3 ปี หรือทั้งปรับทั้งจำ
ค. ปรับไม่เกิน 400,000 บาท หรือจำคุก ไม่เกิน 4 ปี หรือทั้งปรับทั้งจำ
ง. ปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือจำคุก ไม่เกิน 5 ปี หรือทั้งปรับทั้งจำ
ตอบ ง. ปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือจำคุก ไม่เกิน 5 ปี หรือทั้งปรับทั้งจำ
43. เจ้าหนี้ซึ่งจะขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายจะเป็นเจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์หรือไม่ก็ตาม ต้องยื่นคำขอต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ภายในกี่เดือน นับแต่วันโฆษณาคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด
ก. 1 เดือน ค. 3 เดือน
ข. 2 เดือน ง. 4 เดือน
ตอบ ง. 4 เดือน
44. เจ้าหนี้ไม่มีประกันอาจขอรับชำระหนี้ได้ ถ้ามูลแห่งหนี้ได้ เกิดขึ้นก่อนวันที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ แม้ว่าหนี้นั้นยังไม่ถึงกำหนดชำระ หรือมีเงื่อนไขก็ตามเว้นแต่กรณีใด
ก. หนี้ที่เกิดขึ้นโดยฝ่าฝืนข้อห้ามตามกฎหมาย หรือศีลธรรมอันดีหรือหนี้ ที่จะฟ้องร้องให้บังคับคดีไม่ได้
ข. หนี้ที่เจ้าหนี้ยอมให้ลูกหนี้กระทำขึ้น เมื่อเจ้าหนี้ได้รู้ถึงการที่ลูกหนี้มี หนี้สินล้นพ้นตัว แต่ไม่รวมถึงหนี้ที่เจ้าหนี้ยอมให้กระทำขึ้นเพื่อให้กิจการของ ลูกหนี้ดำเนินต่อไปได้
ค. ถูกทั้ง ก และ ข
ง. ไม่มีข้อถูก
ตอบ ค. ถูกทั้ง ก และ ข
45. เจ้าหนี้มีประกันอาจขอรับชำระหนี้ได้ภายในเงื่อนไขใด
ก. เมื่อยินยอมสละทรัพย์สินอันเป็นหลักประกันเพื่อประโยชน์แก่เจ้าหนี้ ทั้งหลายแล้ว ขอรับชำระหนี้ได้เต็มจำนวน
ข. เมื่อได้บังคับเอาแก่ทรัพย์สินอันเป็นหลักประกันแล้ว ขอรับชำระหนี้ สำหรับจำนวนที่ยังขาดอยู่
ค. เมื่อได้ขอให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ขายทอดตลาดทรัพย์สินอันเป็น หลักประกันแล้ว ขอรับชำระหนี้สำหรับจำนวนที่ยังขาดอยู่
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
46. คำขอรับชำระหนี้รายใดถ้ามีผู้โต้แย้ง ให้ศาลพิจารณาแล้ว มีคำสั่งใด
ก. ให้ยกคำขอรับชำระหนี้
ข. อนุญาตให้ได้รับชำระหนี้เต็มจำนวน
ค. อนุญาตให้ได้รับชำระหนี้บางส่วน
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
47. ทรัพย์สินใดเป็นทรัพย์สินในคดีล้มละลาย อันอาจแบ่งแก่เจ้าหนี้ได้
ก. ทรัพย์สินทั้งหลายอันลูกหนี้มีอยู่ในเวลาเริ่มต้นแห่งการล้มละลาย รวมทั้งสิทธิเรียกร้องเหนือทรัพย์สินของบุคคลอื่น
ข. ทรัพย์สินซึ่งลูกหนี้ได้มาภายหลังเวลาเริ่มต้นแห่งการล้มละลาย จน ถึงเวลาปลดจากล้มละลาย
ค. สิ่งของซึ่งอยู่ในครอบครองหรืออำนาจสั่งการ หรือสั่งจำหน่ายของ ลูกหนี้ ในทางการค้าหรือธุรกิจของลูกหนี้ ด้วยความยินยอมของเจ้าของอัน แท้จริง โดยพฤติการณ์ ซึ่งทำให้เห็นว่าลูกหนี้เป็นเจ้าของในขณะที่มีการขอ ให้ลูกหนี้นั้นล้มละลาย
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
48. ข้อใด ไม่ใช่ ทรัพย์สินในคดีล้มละลาย อันอาจแบ่งแก่เจ้าหนี้ได้
ก. สัตว์ พืชพันธุ์
ข. เครื่องใช้สอยส่วนตัวอันจำเป็นแก่การดำรงชีพ ซึ่งลูกหนี้รวม ทั้งคู่สมรสและบุตรผู้เยาว์ของลูกหนี้จำเป็นต้องใช้ตามสมควรแก่ฐานานุรูป
ค. เครื่องมือและสิ่งของสำหรับใช้ในการประกอบอาชีพของลูกหนี้ราคารวมกันไม่เกิน100,000 บาท
ง. ไม่ใช่ทรัพย์สินในคดีล้มละลาย อันอาจแบ่งแก่เจ้าหนี้ทุกข้อ
ตอบ ง. ไม่ใช่ทรัพย์สินในคดีล้มละลาย อันอาจแบ่งแก่เจ้าหนี้ทุกข้อ
49. การแบ่งทรัพย์สินต้องกระทำทุกระยะเวลาไม่เกินกี่เดือน
ก. 6 เดือน ค. 4 เดือน
ข. 5 เดือน ง. 3 เดือน
ตอบ ก. 6 เดือน
50. การยกเลิกการล้มละลาย กระทำได้เมื่อผู้มีส่วนได้เสียหรือเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีคำขอศาล มีอำนาจสั่งยกเลิกการล้มละลาย ในกรณีใด
ก. ลูกหนี้ไม่ควรถูกพิพากษาให้ล้มละลาย
ข. หนี้สินของบุคคลล้มละลายได้ชำระเต็มจำนวนแล้ว
ค. เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่อาจดำเนินการให้ได้ผล เพื่อประโยชน์ แก่เจ้าหนี้ทั้งหลายเพราะเจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์ไม่ช่วยหรือยอมเสียค่าธรรมเนียม หรือค่าใช้จ่ายหรือวางเงินประกันตามที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เรียกร้อง
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
51. ข้อใด ไม่ใช่ หน้าที่ของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
ก. ยกเลิกการล้มละลาย
ข. ถอนการยึดทรัพย์ในคดีล้มละลาย
ค. ฟ้องหรือถอนฟ้องคดีแพ่งเกี่ยวกับทรัพย์สินในคดีล้มละลาย หรือฟ้อง หรือถอนฟ้องคดีล้มละลาย
ง. รายงานข้อความเกี่ยวกับกิจการ ทรัพย์สิน หรือความประพฤติของ ลูกหนี้ตามที่ศาลต้องการ
ตอบ ก. ยกเลิกการล้มละลาย
52. ลูกหนี้คนใดฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่ง มาตรา 67 (3) โดยไม่มี ข้อแก้ตัวอันสมควร มีความผิดต้องระวางโทษอย่างไร
ก. ปรับไม่เกิน 100 บาท หรือจำคุก ไม่เกิน 2 เดือน หรือทั้งปรับทั้งจำ
ข. ปรับไม่เกิน 200 บาท หรือจำคุก ไม่เกิน 2 เดือน หรือทั้งปรับทั้งจำ
ค. ปรับไม่เกิน 300 บาท หรือจำคุก ไม่เกิน 4 เดือน หรือทั้งปรับทั้งจำ
ง. ปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือจำคุก ไม่เกิน 5 เดือน หรือทั้งปรับทั้งจำ
ตอบ ก. ปรับไม่เกิน 100 บาท หรือจำคุก ไม่เกิน 2 เดือน หรือทั้งปรับทั้งจำ
53. ลูกหนี้ที่กระทำการอย่างใดที่ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาทหรือจำคุกไม่เกิน2 ปี หรือทั้งปรับ ทั้งจำ
ก. ฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่ง มาตรา 23 มาตรา 30 หรือ มาตรา 67 (1) หรือ (2) โดยไม่มีข้อแก้ตัวอันสมควร
ข. ละเว้นไม่แจ้งข้อความอันเป็นสาระสำคัญ หรือกล่าวเท็จเกี่ยวกับ กิจการหรือทรัพย์สินของตนต่อศาล เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ หรือที่ประชุม เจ้าหนี้ เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่ามีเจตนาฉ้อฉล
ค. มิได้แจ้งให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ทราบภายในกำหนดเวลาหนึ่ง เดือนเมื่อได้ทราบ หรือมีเหตุผลอันสมควรเชื่อได้ว่ามีผู้นำหนี้สินอันเป็นเท็จมา ขอรับชำระในคดีล้มละลาย
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง.ถูกทุกข้อ
54. ลูกหนี้ที่กระทำการอย่างใด มีความผิดต้องระวางโทษ ปรับไม่เกินห้าร้อยบาทหรือจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือทั้งปรับทั้งจำ
ก. กระทำหนี้สินอันพึงขอรับชำระได้ในคดีล้มละลาย โดยไม่มีเหตุอัน น่าเชื่อว่าจะสามารถชำระหนี้นั้นได้
ข. เมื่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สอบถามหรือศาลทำการไต่สวนลูกหนี้ ไม่สามารถให้เหตุผลอันสมควรถึงการที่ได้เสียทรัพย์สินไปเป็นจำนวนมาก ใน ระหว่างเวลาหนึ่งปีก่อนมีการขอให้ล้มละลาย หรือภายหลังนั้นแต่ก่อนมีคำสั่ง พิทักษ์ทรัพย์
ค. ประกอบการค้าหรือธุรกิจโดยใช้นามสมญาของผู้อื่นบังหน้า
ง. ถูกเฉพาะ ข้อ ก และ ข
ตอบ ง.ถูกเฉพาะ ข้อ ก และ ข
55. ผู้ใดรู้ว่ามีหรือจะมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ แล้วยักย้าย ซุกซ่อน รับ จำหน่าย หรือจัดการแก่ทรัพย์สินของลูกหนี้โดยเจตนาทุจริตมีความผิดต้อง ระวางโทษปรับอย่างไร
ก. ปรับไม่เกิน 2 เท่าของราคาทรัพย์สินนั้น หรือจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือทั้งปรับทั้งจำ
ข. ปรับไม่เกิน 2 เท่าของราคาทรัพย์สินนั้น หรือจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือทั้งปรับทั้งจำ
ค. ปรับไม่เกิน 2 เท่าของราคาทรัพย์สินนั้น หรือจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือทั้งปรับทั้งจำ
ง. ปรับไม่เกิน 2 เท่าของราคาทรัพย์สินนั้น หรือจำคุกไม่เกิน 4 ปี หรือทั้งปรับทั้งจำ
ตอบ ข. ปรับไม่เกิน 2 เท่าของราคาทรัพย์สินนั้น หรือจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือทั้งปรับทั้งจำ
56. บุคคลใดมีหน้าที่และความรับผิดทางอาญาเช่นเดียว กับลูกหนี้ สำหรับกิจการที่ตนได้กระทำในขณะที่เป็นผู้ประกอบการงานของลูกหนี้
ก. ถ้าลูกหนี้ตาย ทายาท ผู้จัดการมรดกหรือผู้ปกครองทรัพย์ของลูกหนี้ นั้น
ข. ถ้าลูกหนี้มีตัวแทนหรือลูกจ้างเป็นผู้ประกอบการงาน ตัวแทนหรือ ลูกจ้างของลูกหนี้นั้น
ค. ถ้าลูกหนี้เป็นบริษัทจำกัดผู้เริ่มก่อการ กรรมการ พนักงาน ลูกจ้าง หรือผู้ชำระบัญชีของบริษัทนั้น
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
57. เมื่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้แบ่งทรัพย์สินครั้งที่สุดแล้ว ถ้ามีเงินค้างจ่ายซึ่งไม่มีผู้ใดมารับให้เงินนี้ตกเป็นของแผ่นดิน ถ้าไม่มีผู้ใดมารับภายในกำหนดเวลากี่ปี
ก. 2 ปี ค. 3 ปี
ข. 5 ปี ง. 4 ปี
ตอบ ข.5 ปี
58. ค่าขึ้นศาลสำหรับคำฟ้องหรือคำร้องขอให้ล้มละลายคือ
ก. 200 บาท ค. 400 บาท
ข. 300 บาท ง. 500 บาท
ตอบ ง. 500 บาท
59. ค่าขึ้นศาลในกรณีที่มีการอุทธรณ์เรื่องขอรับชำระหนี้คือ
ก. 200 บาท ค. 400 บาท
ข. 300 บาท ง. 500 บาท
ตอบ ก. 200 บาท
60. มาตรา 179 ค่าธรรมเนียมในคดีล้มละลาย ถูกแก้ไขโดยพระราชบัญญัติฉบับที่เท่าใด
ก. ฉบับที่ 5 ค. ฉบับที่ 6
ข. ฉบับที่ 4 ง. ฉบับที่ 7
ตอบ ง. ฉบับที่ 7 พ.ศ.2547
61. ค่าธรรมเนียมในการรวบรวมทรัพย์สินให้คิดในอัตราร้อยละสาม ของเงินสุทธิที่รวบรวมได้ สำหรับทรัพย์สินที่ไม่มีการขาย หรือจำหน่ายให้คิดในอัตราร้อยละเท่าใด ของราคาทรัพย์สิน
ก. ร้อยละ 1 ค. ร้อยละ 3
ข. ร้อยละ 2 ง. ร้อยละ 4
ตอบ ข. ร้อยละ 2
62. ถ้ามีการประนอมหนี้ให้คิดค่าธรรมเนียมในอัตราร้อยละเท่าใด ของจำนวนเงินที่ประนอมหนี้
ก. ร้อยละ 1 ค. ร้อยละ 3
ข. ร้อยละ 2 ง. ร้อยละ 4
ตอบ ค.ร้อยละ 3
63. ใครคือผู้รักษาการตามพระราชบัญญัติล้มละลาย
ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
ค. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ง. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
ตอบ ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
64. เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติล้มละลาย ฉบับที่ 2 พ.ศ.2511 คืออะไร
ก. ความแตกต่างของค่าเงินบาทในอดีตกับปัจจุบัน
ข. การแก้ไขจำนวนเงินวางศาลและค่าธรรมเนียมบางอย่างให้เหมาะสม
ค. บทบัญญัติเกี่ยวกับการขอเพิกถอนการกระทำของลูกหนี้เกี่ยวกับทรัพย์สินยังไม่รัดกุม
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง.ถูกทุกข้อ
65. พระราชบัญญัติล้มละลาย ฉบับที่ 2 พ.ศ.2511 ให้ยกเลิกความในมาตราใดของพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช ๒๔๘๓
ก. มาตรา 112,114,179 ค. มาตรา 9 ,10, 11,
ข. มาตรา 68,109,111, ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
66. เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติล้มละลาย ฉบับที่ 3 พ.ศ.2526 คืออะไร
ก. ค่าของเงินบาทตกต่ำลงมาก
ข. การแก้ไขจำนวนเงินวางศาลและค่าธรรมเนียมบางอย่างให้เหมาะสม
ค. บทบัญญัติเกี่ยวกับการขอเพิกถอนการกระทำของลูกหนี้เกี่ยวกับทรัพย์สินยังไม่รัดกุม
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ก. ค่าของเงินบาทตกต่ำลงมาก
67. พระราชบัญญัติล้มละลาย ฉบับที่ 3 พ.ศ.2526 ให้ยกเลิกความในมาตราใดของพระราชบัญญัติล้มละลาย ฉบับที่ 2 พ.ศ.2511
ก. มาตรา 9,10, ค. มาตรา 7, 9
ข. มาตรา 8,12 ง. มาตรา 8 , 9
ตอบ ก.มาตรา 9,10,
68. เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติล้มละลาย ฉบับที่ 4 พ.ศ.2551 คืออะไร
ก. บทบัญญัติบางประการของพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 ไม่เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจละสังคมในปัจจุบัน
ข. บทบัญญัติเกี่ยวกับการขอเพิกถอนการกระทำของลูกหนี้เกี่ยวกับทรัพย์สินยังไม่รัดกุม
ค. บทบัญญัติที่ยอมให้ลูกหนี้ก่อหนี้ขึ้นโดยรู้อยู่แล้วว่าลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัวไม่มีสิทธิขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายอันเป็นเหตุให้ไม่มีสถาบันทางการเงิน
ง. ถูกเฉพาะ ก และ ค
ตอบ ง.ถูกเฉพาะ ก และ ค
69. พระราชบัญญัติล้มละลาย ฉบับที่ 4 พ.ศ.2551 ได้มีการแก้ไขอย่างไร
ก. เพิ่มความในหมวด 3/1 กระบวนการพิจารณาเกี่ยวกับการฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้
ข. เพิ่มความในมาตรา 90/1 ถึง 90/90 แห่ง พระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช ๒๔๘๓
ค. ถูกทั้ง ก และ ข
ง. ไม่มีข้อถูก
ตอบ ค. ถูกทั้ง ก และ ข
70. พระราชบัญญัติล้มละลาย ฉบับที่ 5 พ.ศ.2542 มีการแก้ไขอย่างไร
ก. เพิ่มความในบทนิยาม คำว่า มติพิเศษ ในมาตรา 6 แห่ง พระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช ๒๔๘๓
ข. เพิ่มความในบทนิยาม คำว่า บุคคลล้มละลายทุจริต ในมาตรา 6 แห่ง พระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช ๒๔๘๓
ค. ยกเลิกความ (2) ของมาตรา 10 พระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช ๒๔๘๓ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติล้มละลาย ฉบับที่ 3 พ.ศ.2526
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ